จะเห็นได้ว่า 2 วิธีนี้จะแตกต่างจากวิธีแรกโดยสิ้นเชิง แต่ผมจะหยิบ 2 ตัวนี้มาเปรียบเทียบมาให้เข้าใจกันง่ายๆ
1. FIFO จะสต๊อกในคลังโดยสต๊อกของล็อตล่าสุด ส่วน LIFO สต๊อกสินค้าในคลังที่้เก่าที่สุด
2. แบบ LIFO หากมีการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าในตลาด จะแสดงต้นทุนของสินค้าที่ขาย เท่ากับราคาตลาดในปัจจุบัน
3. แบบ FIFO การคำนวณสินค้าคงคลัง จะสามารถวัดมูลค่าของสินค้าคงคลังได้
การหยิบสินค้าเมื่อได้รับการสั่งซื้ออย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัยการสต๊อกสินค้าที่เป็นระบบ ควรจัดเตรียมคลังให้เป็นระเบียบ จัดวางตำแหน่งสินค้าให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายตอนการหยิบสินค้าไปส่ง ไม่ต้องเสียเวลาหาสินค้าเมื่อถึงเวลาส่ง