การใช้เทคโนโลยีเสียง (Voice Picking) เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการหยิบสินค้าในคลัง

Posted on: กันยายน 17, 2024, by :

  ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตอย่างรวดเร็ว การจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและ

  ลดข้อผิดพลาดในการจัดการสินค้าคือ “เทคโนโลยีเสียง” หรือที่เรียกกันว่า “Voice Picking” ซึ่งเป็นระบบการทำงานที่ใช้เสียงในการสั่งงานและสื่อสารกับพนักงานคลังสินค้า แทนการใช้เอกสารหรืออุปกรณ์สแกนแบบเดิม

Voice Picking คืออะไร?

  Voice Picking เป็นระบบที่พนักงานคลังสินค้าจะได้รับคำสั่งผ่านหูฟังหรืออุปกรณ์ไร้สาย ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์บริหารจัดการคลัง (Warehouse Management System: WMS) แทนที่พนักงานจะต้องอ่านข้อมูลจากเอกสารหรือดูข้อมูลจากอุปกรณ์พกพา 

  ระบบนี้จะใช้เสียงเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้มือ (hands-free) และลดเวลาที่ต้องเสียไปกับการเช็คข้อมูลบนหน้าจอหรือกระดาษ

ข้อดีของการใช้ Voice Picking ในคลังสินค้า

เพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน

  เทคโนโลยีเสียงช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้เร็วขึ้น เนื่องจากพนักงานไม่จำเป็นต้องหยุดงานเพื่ออ่านข้อมูลหรือค้นหาข้อมูลในอุปกรณ์ การรับคำสั่งผ่านเสียงทำให้พนักงานสามารถโฟกัสที่การหยิบสินค้าได้ตลอดเวลา ซึ่งลดการหยุดชะงักระหว่างการทำงาน

ลดความผิดพลาดในการหยิบสินค้า

  หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยในคลังสินค้าคือการหยิบสินค้าผิด เนื่องจากข้อมูลที่พนักงานต้องอ่านจากเอกสารหรืออุปกรณ์อาจไม่ชัดเจนหรือมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น Voice Picking ช่วยลดปัญหานี้โดยการสื่อสารผ่านเสียงที่ชัดเจน นอกจากนี้พนักงานยังสามารถยืนยันข้อมูลได้ทันทีผ่านระบบ

ประหยัดเวลาและแรงงาน

  เทคโนโลยีเสียงช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนลง ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พนักงานสามารถรับคำสั่งและยืนยันคำสั่งได้ในขณะทำงานโดยไม่ต้องหยุดทำงานเพื่ออ่านข้อมูล ทำให้สามารถจัดการคำสั่งซื้อได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

ง่ายต่อการฝึกฝนและใช้งาน

  ระบบ Voice Picking ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย พนักงานสามารถเรียนรู้และฝึกฝนการใช้งานได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เนื่องจากคำสั่งที่ได้รับเป็นเสียงที่เข้าใจง่าย นอกจากนี้ระบบยังสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานในภาษาต่าง ๆ ทำให้สามารถนำไปใช้ในคลังสินค้าทั่วโลกได้

เพิ่มความสะดวกสบายให้กับพนักงาน

  การทำงานแบบ hands-free ทำให้พนักงานมีความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น ลดภาระในการถืออุปกรณ์หรือเอกสาร ทำให้การทำงานในคลังสินค้ามีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บจากการทำงาน

ตัวอย่างการใช้ Voice Picking ในอุตสาหกรรม

  เทคโนโลยี Voice Picking ถูกใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำในการจัดการคลังสินค้า เช่น 

  บริษัทผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง Walmart และ Amazon ได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อเร่งกระบวนการจัดการคำสั่งซื้อและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า 

  โดยทั้งสองบริษัทได้รายงานว่าการใช้ Voice Picking สามารถลดเวลาในการหยิบสินค้าได้มากถึง 25% เมื่อเทียบกับการใช้บาร์โค้ดหรือระบบดั้งเดิมอื่น ๆ

  นอกจากนี้ บริษัทโลจิสติกส์อย่าง DHL ก็ใช้ระบบนี้เพื่อลดข้อผิดพลาดในการหยิบสินค้าและลดเวลาในการฝึกอบรมพนักงานใหม่ โดยการปรับใช้เทคโนโลยีเสียงทำให้พนักงานสามารถเรียนรู้และใช้งานระบบได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการจัดการคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น

การลงทุนและความคุ้มค่าในการใช้ Voice Picking

  การนำเทคโนโลยี Voice Picking มาใช้อาจมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูง เนื่องจากต้องมีการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ใหม่ รวมถึงการจัดหาอุปกรณ์ เช่น หูฟังหรือเครื่องรับสัญญาณเสียง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ที่ได้รับในระยะยาว เช่น 

  การลดเวลาทำงาน, ลดความผิดพลาด และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า การลงทุนในเทคโนโลยีนี้ถือว่าคุ้มค่า โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่มีการจัดการคลังสินค้าขนาดใหญ่หรือมีปริมาณคำสั่งซื้อสูง

เปรียบเทียบ Voice Picking กับเทคโนโลยีอื่น ๆ

  ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลายแบบที่ใช้ในการจัดการคลังสินค้า เช่น การใช้บาร์โค้ด, RFID (Radio Frequency Identification), และการใช้ระบบ Pick-to-Light แต่ละเทคโนโลยีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ Voice Picking พบว่า:

  บาร์โค้ด: แม้ว่าการใช้บาร์โค้ดจะมีความแม่นยำ แต่การสแกนบาร์โค้ดแต่ละรายการยังต้องใช้เวลาและการหยุดทำงานเพื่อสแกน ซึ่งอาจทำให้ความรวดเร็วลดลงเมื่อเทียบกับการใช้เสียง

  RFID: เป็นเทคโนโลยีที่สามารถระบุและติดตามสินค้าผ่านคลื่นความถี่วิทยุ แต่การติดตั้งและบำรุงรักษาระบบนี้มีต้นทุนสูงกว่า Voice Picking นอกจากนี้ RFID ยังต้องพึ่งพาอุปกรณ์เฉพาะและการฝึกฝนในการใช้งาน

  Pick-to-Light: เป็นระบบที่ใช้ไฟเพื่อชี้นำพนักงานในการหยิบสินค้า แต่ระบบนี้จำกัดความยืดหยุ่นและเหมาะสำหรับคลังสินค้าขนาดเล็กหรือที่มีตำแหน่งสินค้าคงที่

อนาคตของ Voice Picking ในอุตสาหกรรมคลังสินค้า

  ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่หยุดยั้ง Voice Picking มีศักยภาพที่จะก้าวไปอีกขั้นด้วยการผสมผสานกับเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือการประมวลผลเสียงขั้นสูง 

  เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและการวิเคราะห์ผลการทำงาน นอกจากนี้เทคโนโลยีนี้ยังสามารถปรับปรุงการทำงานในคลังสินค้าขนาดใหญ่และธุรกิจที่มีการจัดการสินค้าจำนวนมากได้ดีขึ้นอีกด้วย

  การใช้เทคโนโลยีเสียง (Voice Picking) ในการจัดการคลังสินค้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับพนักงาน 

  การนำระบบนี้มาใช้ไม่เพียงแต่ช่วยลดเวลาในการหยิบสินค้า แต่ยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพสูง 

  นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีอื่น ๆ Voice Picking แสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วและความยืดหยุ่นที่สามารถปรับใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรมและธุรกิจที่มีความต้องการในการจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

  แม้ว่าการลงทุนเริ่มต้นในระบบนี้อาจสูง แต่ความคุ้มค่าในระยะยาว เช่น การลดข้อผิดพลาดและการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ทำให้การใช้ Voice Picking เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล

MeowLogis บริการ Multi-Fulfillment / One Stop Packing

Meowlogis Multi-Fulfillment เป็นมากกว่าผู้ให้บริการขนส่ง เพราะเรามีบริการแบบ Multi-Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สถิติ ที่จะช่วยให้คุณดำเนินธุรกิจอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ด้วยประสบการณ์การทำธุรกิจออนไลน์กว่า 12 ปี Meow Logis เป็นบริการ fulfillment แบบครบวงจรสำหรับธุรกิจทุกระดับ B2B, B2C และ SME โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่ครบถ้วนและมีคุณภาพสูง เพื่ออำนวยความสะดวกให้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ และธุรกิจขนาดใหญ่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

Open



130,132 ถนน แฮปปี้แลนด์ 1 แขวง คลองจั่น เขต บางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240


130,132 Happy Land 1 Rd. Soi Happy Land shopping center 1 Klongjan Bangkapi Bangkok 10240

สอบถามข้อมูล เพิ่มเติม